โรคนิ่วทางเดินปัสสาวะ สิ่งที่ต้องรู้กับโรคนี้
นิ่ว เกิดจากสารประกอบในปัสสาวะจับตัวกันเป็นก้อนแข็ง นิ่วที่พบไบ่อยในประเทศไทยคือ นิ่วแคลเซี่ยมออกซาเลต, แคลเซี่ยมฟอสเฟต,นิ่วติดเชื้อ และนิ่วยูริค
ลักษณะของนิ่วทางเดินปัสสาวะ
สาเหตุ ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าเกิดจากหลายปัจจัยคือ
- กรรมพันธุ์ เช่นโรคRenal tubular acidosis, Cystinuria
- สภาพอากาศร้อน
- ดื่มน้ำน้อย
- สารประกอบในน้ำดื่มเช่น เกลือโซเดี่ยมคาร์บอร์เนตในน้ำกระด้าง
- อาหารเช่น เนื้อสัตว์
- ความผิดปกติในระบบทางเดินปัสสาวะ เช่นมีการอุดกั้นทำให้ปัสสาวะค้างตกตะกอน
- ยาเช่น ยาเคลือบกระเพาะ, วิตามินซี, ดี
อาการ
- ปวด มีตั้งแต่ปวดเล็กน้อยถึงรุนแรง ตำแหน่งที่ปวดขึ้นกับตำแหน่งที่นิ่วอยู่เช่น ไต จะปวดบริเวณข้างบั้นเอว, ท่อไต ปวดบริเวณท้อง, กระเพาะปัสสาวะ ปวดบริเวณท้องน้อยหรือหัวหน่าว
- ปัสสาวะเป็นเลือด ลิ่มเลือด
- ปัสสาะขุ่น
- ไข้ เมื่อเกิดการอักเสบติดเชื้อ
การตรวจวินิจฉัย
- ตรวจปัสสาวะ พบเม็ดโลหิตแดงหรือเม็ดโลหิตขาว แสดงถึงการอักเสบ ติดเชื้อ
- เอ็กซ์เรย์ธรรมดา หรือฉีดสี ในรายที่นิ่วมีขนาดเล็กมากอาจทำเอ็กซ์เรย์คอมพิวเตอร์
- อัลตร้าซาวนด์ ในนิ่วไม่ทึบรังสี หญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ป่วยแพ้อาหารทะเลไม่สามารถฉีดสีได้
การรักษา
- นิ่วที่มีขนาดเล็กกว่า0.5 ซ.ม. ไม่มีอาการ และไม่มีการอุดกั้นทางเดินปัสสาวะ ไม่ต้องให้การรักษา เพียงติดตามดูอาการ
- นิ่วขนาดเล็กกว่า 0.5 ซ.ม. แต่มีอาการหรือมีการอุดกั้นทางเดินปัสสาวะ และนิ่วขนาดใหญ่กว่า 0.5 ซ.ม. มีวิธีการรักษาคือ
1.การรักษาทางยา
- ยาขับปัสสาวะ เพื่อลดการขับแคลเซี่ยมในปัสสาวะ
- ยาทำให้ปัสสาวะเป็นด่าง ในนิ่วกรดยูริค
- ยายับยั้งตะกอนแคลเซี่ยม เช่นโปตัสเซี่ยมซิเตรท
- สมุนไพรเช่น หญ้าหนวดแมว
2.การรักษาทางการผ่าตัดหรือวิธีอื่น
- การทำสลายนิ่ว
- การส่องกล้องผ่านผิวหนังหรือท่อปัสสาวะ แล้วดีงนิ่วหรือยิงให้แตกออกมา
- การทำผ่าตัด ปัจจุบันใช้เฉพาะในรายนิ่วขนาดใหญ่หรือมีข้อห้ามที่ไม่สามารถใช้วิธีข้างต้นได้
ติดตามเนื้อหาดีๆ น่าอ่านได้ที่ private-radio.com อัพเดตทุกสัปดาห์